ค่านิยมเรื่องดวง ความเชื่อที่สืบทอด

horo-130

ในยุคที่คนเชื่อเรื่องดวงชะตา เยอะแยะกว่าการทำความดีนั้น ได้มีค่าชื่นชอบแปลกๆเกิดขึ้นหลายๆพร้อมกับค่าความนิยมชมชอบหนึ่งในนั้นเป็น การคลอดบุตรโดยการดูฤกษ์ยามล่วงหน้าและคลอดโดยการผ่าตัด ซึ่งเป็นอะไรที่ฮิตกันเยอะไม่ว่าจะก็จะรวยหรือไม่จนหากทำได้ทุกคนความประสงค์ให้ลูกที่คลอดออกมานั้น คลอดในเวลาที่ดี วันที่ดี เพื่อในภาคหน้าจะอาจจะได้เป็นใหญ่คือโตและร่ำรวย

 จึงมีกระแสดูดวงวันคลอด จัดหาวันเวลาที่ดีที่สุดให้แพทย์ผ่าคลอดให้ ซึ่งถามว่าผิดไหมคงไม่ผิดแต่อยากจะน่าจะบอกว่ามันงมงายต่างหาก ซึ่งถ้าเราคิดให้ดีๆแล้วการที่ชีวิตๆหนึ่งมาอยู่ในท้องมารดานั้น ผมก็ไม่ทราบว่ามาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเป็นตัวเป็นตนมีชีวิตตั้งแต่วันไหน และ วันเวลาเกิดนั้นตามขั้นตอนโหราศาสตร์เป็นวันเวลาสมมุติ เพราะไม่ทราบนั่นเองว่าเขามีชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ จึงตัดสินใจระบุวันที่คลอดออกจากท้องมารดาเป็นวันพร้อมทั้งเวลากำเนิดของเขานั่นเอง พร้อมกับ คนเราถือความเชื่อเรื่องโชคชะตาราศีหลายๆกว่าการทำความดี หลายๆกว่าบุญพร้อมกับกรรม จึงได้เกิดกระแสนิยมนี้ขึ้นมาแค่เพียงเพราะความเชื่อว่าเกิดมาในวันเวลาที่ดีจะอาจจะส่งผลให้ชีวิตเขาดีจนหมดอายุไข โดยลืมนึกถึงปัจจัยต่างๆนาๆที่จะน่าจะเข้ามาในชีวิตของเขาพร้อมกับส่งผลให้เกิดการอัพเดทนั่นเอง พร้อมทั้งเคยสงใสกันไหมว่าทำไมคนสมัยโบราณไม่ย่อมดูวันเวลาดีเลิศในตอนคลอด หลายๆคนก็คือเจ้าคนนายคนได้ นั่นเป็นเพราะว่าบุญและกรรมที่ติดตัวกันมาและการกระทำในสมัยปัจจุบันที่ส่งผลให้ดีและร้าย จนกระทั่งควรคิดให้ดีและรอบคอบไม่ว่าจะจะดูดวงคลอด หรือเปล่า ดูดวงในเรื่องต่างๆ เหรียญยังมีสองด้านการดูดวงก็ตัวอย่างเช่นเดียวกัน

เยี่ยมชมและสักการะสังเวชนียสถาน

india-011

ทิ้งท้ายเอาไว้ในบทความตอนที่แล้วว่าคนบ้านเราที่ไปทัวร์อินเดียส่วนใหญ่นั้นย่อมจะจะไปสำหรับการแสวงบุญหรือไม่เดินตามรอยอารยธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาเอกของศาสนาพุทธเสียเป็นส่วนใหญ่มีแค่ส่วนน้อยที่จะอาจไปทัวร์อินเดียสำหรับการช็อปปิ้งคล้ายคลึงฝรั่งเศสหรือว่าฮ่องกง ซึ่งจะต้องขอบอกฮะการไปทัวร์อินเดียเพื่อจะตามรอยบาทพระพุทธองค์นั้นเป็นการทัวร์ที่มีความน่าชอบไม่น้อยส่วนจะจะน่าสนใจแค่ไหน อย่างไร ข้าพเจ้าไปดูพร้อมๆ กันขอรับ

               การทัวร์อินเดียเพื่อตามรอยนั้นบริษัททัวร์ที่ส่วนใหญ่จะต้องจะอาจจัดกันเป็นแพทเทิร์นซึ่งไม่ว่าทัวร์ไหนก็จะจะจัดแบบนื้คือพานำชมสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งอันประกอบด้วยสถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงปฐมเทศนา พร้อมกับสถานที่ปรินิพพาน ซึ่งบริษัททัวร์จะเรียกโปรแกรมนี้ว่า ทัวร์สังเวชนียสถานสี่ตำบลการเดินทางไปทัวร์ตามรอยนี้จะน่าจะเริ่มต้นที่ลุมพินีวันอันเป็นสถานที่กำเนิดขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยสถานที่แห่งนี้เดี๋ยวนี้ได้รับการบูรณะจนสวยงามและมีการทำพระพุทธเจ้าน้อยโดยการร่วมใจของประชากรชาวไทยมาประดิษฐานไว้ ณ ที่นี่อีกด้วยฮะ

               ต่อจากผ่านลุมพินีวันไปทางทัวร์เค้าก็จะน่าจะพาฉันไปยังพุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็มีประวัติความคือมาในสมัยพุทธกาลที่น่าชอบไม่แพ้ที่อื่นอาทิกัน ส่วนที่เมืองสารนาถนั้นคือสถานที่พระองค์ได้ปรากฏปฐมเทศนาซึ่งย่อมแน่นอนว่าเป็นที่ตั้งของป่าอิสิปตนมฤคทายวันในสมัยโบราณนั่นเอง

               ส่วนสถานที่สุดท้ายที่เขาจะจะพาผมไปทัวร์ปิดท้ายนั้นก็เป็นเมืองกุสินาราเมืองที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานพร้อมกับถวายพระเพลิงพระสรีรางคารนั่นเองครับผม ซึ่งการทัวร์สถานที่ทุกอย่างนี้สามารถทำได้ภายใน 1 วัน

ชมความสวยงาม ณ พระเจดีย์ไจปุ่น

myanmar-0007

ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงามของประเทศพม่าแล้วงานนี้ทัวร์พม่า จะพลาดพาคุณๆไปชมพระเจดีย์ไจปุ่น ได้อย่างไรกัน แต่ก่อนที่จะกลายเป็นพระเจดีย์ที่มีผู้คนนิยมนับถือสักการะก็ใช้เวลาอันยาวนานพร้อมประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ทัวร์พม่าเองเลยขอหยิบประวัติของพระเจดีย์แห่งนี้มาเล่าให้คุณๆฟังกัน

พระเจดีย์ไจปุ่น(Kyaikpun Pagoda) ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์หันพระ พักตร์ไปทุกทิศทางแทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ในภัทรกัป มีตำนานเล่าว่า พระราชธิดาทั้งสี่องค์ของกษัตริย์มอญสร้างไว้ โดยอธิษฐานว่า จะไม่ยอมอภิเษก แต่ตอนหลังพระธิดาองค์เล็กได้อภิเษก เป็นการผิดสัจจะ พระพุทธรูปองค์หนึ่งในจำนวนสี่องค์นี้ ก็เลยพังทลายลงมา. เมืองพุกาม นับแต่พระเจ้าอโนรธาตีเมืองตะโถ่งได้ในปี 1057 จนกุบไล่ขาน ยกทัพมาเหยียบเมืองพุกาม ในปี 1287 นั้น มีการ สร้างวัดวาอาราม และสถูปเจดีย์ขึ้นบนที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้กว่า 13,000 แห่ง แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปได้เพียง เจ็ดร้อยปี กลับมีศาสนสถาน หลงเหลืออยู่ราว 2,000 แห่งเท่านั้น นอกนั้นกลายเป็นซากกองอิฐ ที่ปรักหักพังบ้าง ถูกแม่น้ำ เอยาวดี พัดหายไปบ้าง แต่มรดกจาก ยุคทอง ของการสร้างวัดวาอาราม ที่เหลือตกทอดมาให้ผู้คน ในปัจจุบัน ได้ชื่นชม ก็ยัง ต้องถือว่ามีอยู่ไม่น้อยเลยอยู่ดี ถ้าพุกามตั้งอยู่บน เส้นทาง การท่องเที่ยวสำคัญของเอเชีย แทนที่จะเป็นที่ราบอันร้อนและ แห้งแล้ง ในภาคกลางของพม่าเช่นนี้ ก็คงจะเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ในหมู่ชาวตะวันตก ไม่ต่างจากกำแพงเมืองจีน หรือ ทัชมาฮาล ไปเสียนานแล้ว ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 พระเจ้าตะมุดะริด (สมุทรฤทธิ์) ทรงนำชาว ปยู มาตั้งบ้านเมืองขึ้นในเขต ที่ราบพุกาม แต่เมืองแบบ ที่มีกำแพงล้อมรอบนั้น เพิ่งมาสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 849 ในรัชสมัย ของพระเจ้าปหยิ่นปยา ครั้นพระเจ้าอโนรธา ขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริย์องค์ที่ 42 แห่งราชวงศ์พุกาม ก็ทรงทำนุบำรุงบ้านเมือง จนรุ่งเรือง และรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีกใน รัชสมัยพระเจ้าญานสิทธา พระเจ้าอโนรธา ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองบัลลังก์ในปี 1044 ทรงพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์พุกามด้วยการพิชิตราชธานี ของ พวกมอญลงได้ในปี 1507 เมืองพุกาม หรือที่เรารู้จักในนาม อาณาจักรพุกามเดิม (Pagan หรือ Bagan) เมืองมรดกโลก ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงย่างกุ้ง 680 กิโลเมตร เป็นดินแดนอารยธรรม แห่งหนึ่งของโลก เพราะมีวัดวาอารามมากมาย ตลอดจนเจดีย์กว่า 2,000 องค์

นับแต่พระเจ้าอโนรธาตีเมืองตะโถ่งได้ในปี 1057 จนกุบไล่ขานยกทัพมาเหยียบเมืองพุกามในปี 1287 นั้น มีการ สร้างวัดวาอาราม และสถูปเจดีย์ขึ้นบนที่ราบอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้กว่า 13,000 แห่ง แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปได้เพียง เจ็ดร้อยปี กลับมีศาสนสถานหลงเหลืออยู่ราว 2,000 แห่งเท่านั้น นอกนั้นกลายเป็นซากกองอิฐที่ปรักหักพังบ้าง ถูกแม่น้ำ เอยาวดี พัดหายไปบ้าง แต่มรดกจากยุคทองของการสร้างวัดวาอารามที่เหลือตกทอดมาให้ผู้คนในปัจจุบันได้ชื่นชม ก็ยัง ต้องถือว่ามีอยู่ไม่น้อยเลยอยู่ดี ถ้าพุกามตั้งอยู่บนเส้นทางการท่องเที่ยวสำคัญของเอเชีย แทนที่จะเป็นที่ราบอันร้อนและ แห้งแล้ง ในภาคกลางของพม่าเช่นนี้ ก็คงจะเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่ชาวตะวันตก ไม่ต่างจากกำแพงเมืองจีน หรือ ทัชมาฮาลไปเสียนานแล้ว ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2 พระเจ้าตะมุดะริด (สมุทรฤทธิ์) ทรงนำชาวปยู มาตั้งบ้านเมืองขึ้นในเขต ที่ราบพุกาม แต่เมืองแบบที่มีกำแพงล้อมรอบนั้น เพิ่งมาสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 849 ในรัชสมัยของพระเจ้าปหยิ่นปยา ครั้นพระเจ้าอโนรธา ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 42 แห่งราชวงศ์พุกาม ก็ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองจนรุ่งเรือง และรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีกใน รัชสมัยพระเจ้าญานสิทธา พระเจ้าอโนรธา ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองบัลลังก์ในปี 1044 ทรงพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ พุกามด้วยการพิชิตราชธานีของพวกมอญลงได้ในปี 1507

ทัวร์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา

india-0103

ทิ้งท้ายเอาไว้ในบทความตอนที่แล้วว่าคนบ้านเราที่ไปท่องเที่ยวอินเดียส่วนใหญ่นั้นย่อมจะน่าจะไปเพื่อที่จะการแสวงบุญใช่หรือไม่เดินตามรอยอารยธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาเอกของศาสนาพุทธเสียคือส่วนใหญ่มีแค่ส่วนน้อยที่จะคงจะไปทัวร์อินเดียสำหรับการช็อปปิ้งเหมือนฝรั่งเศสหรือเปล่าฮ่องกง ซึ่งมักขอบอกฮะการไปทัวร์อินเดียเพื่อตามรอยบาทพระพุทธองค์นั้นเป็นการทัวร์ที่มีความน่าชอบไม่น้อยส่วนจะอาจน่าสนใจแค่ไหน อย่างไร เราไปดูพร้อมๆ กันขอรับกระผม

               การทัวร์อินเดียสำหรับตามรอยนั้นบริษัททัวร์ที่ส่วนใหญ่มักจะน่าจะจัดกันคือแพทเทิร์นซึ่งไม่ว่าทัวร์ไหนก็จะจะจัดแบบนื้คือพานำชมสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งอันประกอบด้วยสถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงปฐมเทศนา พร้อมทั้งสถานที่ปรินิพพาน ซึ่งบริษัททัวร์จะเรียกซอฟต์แวร์นี้ว่า ทัวร์สังเวชนียสถานสี่ตำบลการเดินทางไปทัวร์ตามรอยนี้จะก็จะเริ่มต้นที่ลุมพินีวันอันเป็นสถานที่กำเนิดขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยสถานที่แห่งนี้ปัจจุบันได้รับการบูรณะจนสวยงามพร้อมทั้งมีการทำพระพุทธเจ้าน้อยโดยการร่วมใจของมนุษย์ชาวไทยมาประดิษฐานไว้ ณ ที่นี่เช่นกันครับ

               หลังจากผ่านลุมพินีวันไปทางทัวร์เค้าก็จะอาจพาเราไปยังพุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็มีประวัติความคือมาในสมัยพุทธกาลที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นตัวอย่างเช่นกัน ส่วนที่เมืองสารนาถนั้นคือสถานที่พระองค์ได้แสดงปฐมเทศนาซึ่งจะต้องแน่นอนว่าเป็นที่ตั้งของป่าอิสิปตนมฤคทายวันในสมัยโบราณนั่นเอง

               ส่วนสถานที่สุดท้ายที่เขาจะคงจะพาเราไปทัวร์ปิดท้ายนั้นก็คือเมืองกุสินาราเมืองที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานพร้อมด้วยถวายพระเพลิงพระสรีรางคารนั่นเองครับ ซึ่งการทัวร์สถานที่ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ภายใน 1 วัน

เล่าเรื่อง อิสตันบูล โดยสังเขป

ถ้าหากทีมงานโปรแกรมทัวร์ตุรกี  ถามคำถามหนึ่งคำว่า คุณรู้จักเมืองอิสตันบูลหรือไม่ ?” จะมีหลายคนตอบว่า ทราบบ้าง ไม่รู้จักบ้าง ซึ่งก็ไม่แปลก  แต่ในเมื่อฉันกำลังจะน่าจะเดินทางไปตุรกี..จะอาจตอบว่าไม่รู้จักอิสตันบูลเลยก็คงดูตลก จนกระทั่งผมเลยขอเชิญชวนข้อมูลเมืองอิสตันบูลให้คุณแบบย่อ ตามด้านส่วนล่างนี้เลย

อิสตันบูล เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดพร้อมทั้งคือเมืองที่มีมนุษย์หนาแน่นหลากหลายที่สุดในตุรกี อิสตันบูล ตั้งอยู่ริมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus) เดิมชื่อว่า คอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ที่คือเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากมายในพื้นที่นั้น จึงส่งผลให้อิสตันบลู มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปอาทิ ไปแซนเทียม คอนสแตนติโนเปิล สแตมโบล เป็นต้น

อาณาเขต : ทิศเหนือจรดทะเลดำ (Black Sea ) ทิศตะวันออกติดกับโคจาเอลลี (Kocaeli )และทะเลมาร์มารา (Marmara) ฝั่งตะวันตกติดกับ เทคีร์ดาค์ ( Tekirdag ) พร้อมกับคีร์คลาเรลี (Kirklareli ) มีพื้นที่ประกอบเกาะมาร์มารา (Marmara Island ซึ่งได้สมญานามว่าเป็นเกาะเจ้าชาย Princess’Island 5,712 ตารางกิโลเมตร

อิสตันบลูเป็นเมืองเดียวของตุรกีที่มีบริเวณอยู่ใน 2 ทวีปเป็นทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลียน) พร้อมทั้งทวีปยุโรป (ฝั่ง Trace ของบอกฟอรัส) โดยทั้ง 2 ทวีป ถูกแบ่งออกจากกันโดยช่องแคบบอสฟอรัส ทะเลามาร์มารา พร้อมกับช่องแคบ ดาร์ดาแนลส์

ส่วนในยุโรปแบ่งออกคืออิสตันบลูเก่า และอิสตันบลูใหม่ โดยมีโกลเดนฮอร์นคันอยู่ (Golden Hornเป็นทะเลชายฝั่งรูปร่างเว้าเหมือนเขาสัตว์ เมื่อยามวีคอุทัยและอัสดงแสงจะอาจจะอาบลำน้ำคือประกายระยิบระยับราวทองคำ ) เมืองที่ถูกแบ่งแล้วคือสตัมบลู (Stambul )ทางด้านใต้ พร้อมกับทางกาลาตา (Galata )กับเบโยหลุ (Beyoglu) ทางด้านเหนือ

ภูมิอากาศ ได้รับอิทธิพลมาจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ฤดูหนาวจะน่าจะไม่หนาวเย็นหลายๆ แต่มีฝน ฤดูร้อน อากาศจะอาจจะร้อนพร้อมด้วยแห้ง อุณหภูมิของกลางวันกลางคืนไม่ต่างกันมากนักเฉลี่ยแล้วหิมะตกประมาณ 7 วันต่อปี

อิสตันบลูมีแม่น้ำสายใหญ่ที่สุดไหลผ่านอิสตันบลูคือ แม่น้ำริวา (Riva) มีปลายทางที่ทะเลดำ พร้อมทั้งยังมีแม่น้ำอิสทินเย    ( Istinye Deresi ) พร้อมทั้งบูยุค (Buyuk Menderes หรือไม่ที่ร็จักในชื่อ Maeander)ไหลลงสู่ช่องแคบบอสฟอรัส

อิสตันบลูเป็นเมืองท่าพาณิชย์ที่สำคัญ มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 8,803,468 ล้านคน

ทำมาค้าขาย ขายสินค้า