สวัสดีครับทุกท่าน ต้องยอมรับกันอย่างจริงๆ จังๆ นะครับว่าคนไทยในปัจจุบันนี้เริ่มหันมาดูแลผิวพรรณของตนเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายด้วยว่าการดูแลผิวพรรณนั้นจะทำให้เราดูดี ดูมีออร่าและเป็นที่น่าสนใจทั้งต่อเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามดังนั้นจึงมีบรรดาเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิวพรรณต่างๆ ออกมาขายกันอย่างดาษดื่นทั้งของไทยและของต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกครีมทาหน้านั้นดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าอย่างอื่นซึ่งทุกท่านทราบไหมครับว่าแหล่งรับผลิตครีมทาหน้าที่โด่งดังและมีชื่อเสียงนั้นมันอยู่ที่ประเทศอะไร 

เมื่อถามคำถามนี้แล้วเชื่อว่าหลายคนอาจจะคิดไปว่าแหล่งรับผลิตครีมทาหน้าที่ใหญ่และโด่งดังแถมมีความสำคัญในระดับ Worldwide หรือเป็นมาตรฐานสากลระดับโลกนั้นน่าจะอยู่ที่ประเทศในแถบยุโรปอย่าง ฝรั่งเศสหรืออังกฤษอะไรทำนองนี้แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นแหล่งรับผลิตครีมทาหน้าที่ใหญ่และโด่งดังนั้นมันอยู่ในทวีปเอเซียของเรานี้เองแถมยังอยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกล ครับเพราะอยู่ในประเทศเกาหลีนั่นเอง 

คนไทยรู้จักประเทศเกาหลีในฉายาของดินแดนแห่งการทำศัลยกรรมแต่จริงๆ แล้วนั้นนอกจากเรื่องเด่นในเรื่องที่ว่านี้แล้วประเทศเกาหลียังขึ้นชื่อในเรื่องของการผลิตเครื่องสำอางอีกด้วยครับไม่ว่าจะเป็นครีมทาหน้า ครีมประทินผิว หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณความสวยความงาม ทางประเทศเกาหลีเขารับผลิตออกมาหมดซึ่งของทุกอย่างที่ทางประเทศเกาหลีผลิตออกมานั้นก็ล้วนแล้วแต่ใช้ดี มีคุณภาพ เลยทำให้ดังในที่สุดครับ

สวัสดีผู้ที่กำลังมองหาแหล่งสอนทำขนมเค้กดีๆ ทุกท่านครับ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่าในปัจจุบันนี้มีโรงเรียนสอนทำขนมเค้กเปิดให้บริการอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือสถาบันที่มีพื้นที่เรียนจริง สามารถไปเขาเรียน เข้าคลาส ฝึกทำจริงๆ ได้ขนมเค้กออกมาจริงและแบบที่สอนทำขนมเค้กแบบออนไลน์ผ่านทางหน้าจออินเตอร์เน็ตให้เราเปิดเรียนได้แม้แต่ตอนอยู่ที่บ้านพร้อมกับฝึกทำไปพร้อมๆ กับครูสอนบนหน้าจอ ดังนั้นมันจึงมีคำถามตามมาครับว่าระหว่างการไปเรียนทำขนมเค้กจากโรงเรียนสอนทำขนมเค้กที่มีหน้าโรงเรียนจริงๆ กับการเรียนผ่านการสอนทำขนมเค้กออนไลน์แบบไหนได้ผลดีกว่ากันซึ่งผมเองอยากจะบอกครับว่าทั้งสองวิธีนั้นมันมีดีต่างกันครับ

                สำหรับการเรียนทำขนมเค้กผ่านโรงเรียนสอนทำขนมเค้กนั้นสิ่งแรกที่เราจะได้เลยก็คือเรื่องของภาคปฏิบัติครับโดยเรานั้นจะสามารถเรียนรู้การทำขนมเค้กผ่านการลงมือทดลองทำจริงๆ และจะมีครูผู้สอนมาคอยให้คำแนะนำในจุดที่เราไม่เข้าใจ รวมไปถึงเมื่อเกิดปัญหาจริงในการทำขึ้นมาเราเองก็สามารถซักถามข้อสงสัยกับครุผู้สอนได้ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นเราเองไม่สามารถหาได้จากการสอนออนไลน์แต่การสอนออนไลน์เองนั้นก็มีข้อดีคือว่าเราเองสามารถเปิดดูซ้ำได้บ่อยเท่าที่เราต้องการและสามารถดูเวลาไหนก็ได้ที่เราสะดวกที่สำคัญคือประหยัดค่าเรียนไปได้มากกว่าวิธีแรกซึ่งทั้งสองแบบนั้นจะได้ผลหรือไม่มันขึ้นอยู่กับตัวของผู้เรียนมากกว่าวิธีการสอนครับ

สำหรับครอบครัวที่กำลังเผชิญกับปัญหา ไรฝุ่น ในบ้าน ที่นอน หมอน ปลอกหมอน และไม่รู้จะป้องกันการเกิดได้อย่างไร และมีวิธีในการกำจัดไรฝุ่นอย่างไรบ้างรวมไปถึง เราสามารถป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้จากไรฝุ่น ซึ่งเป็นปัญหารบกวนใจของแต่ละครอบครัวในขณะนี้  ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะเรามีเคล็กดไม่ลับในการกำจัดไรฝุ่นในบ้าน รวมไปถึงวิธีป้องกันดูแลตัวเองให้ห่างไกลจาก ไรฝุ่น ได้อย่างไรมาฝากเพื่อนๆ

สำหรับแนวทางวิธีป้องกันการเกิดไรฝุ่นที่ใช้ได้ดีมีประสิทธิภาพ มีดังนี้

-ควรเปลี่ยนที่นอนที่มีอายุการใช้งานที่นานเกินไป ควรเปลี่ยนที่นอนเมื่อรู้สึกใช้มานาน และเก่ามากแล้ว รวมไปถึงชุดเครื่องนอน  เฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ในบ้าน ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น เป็นต้น

-หลีกเลี่ยงการซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่มีอยู่ในบ้าน ที่ผลิตจากวัสดุที่ทำจากพลาสติก รวมไปถึงไนลอน เป็นต้น เพราะวัสดุต่างๆเหล่านี้ สามารถก่อให้เกิดไรฝุ่นได้ง่าย และก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ ควรพิจารณาไตร่ตรองเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ตามมานั่นเอง

-ซักทำความสะอาดเครื่องนอน ชุดนุ่งห่ม ที่นอน ของคุณเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของไรฝุ่นนั่นเอง  สำหรับใครที่ใช้ผ้าคลุมไรฝุ่น ควรหมั่นนำมาทำความสะอาดด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการกระจายของไรฝุ่นมากยิ่งขึ้น

หากท่านใดที่ลองทุกวิธี แต่ก็ยังพบว่า ที่นอน บริเวณบ้านของคุณยังมี ไรฝุ่น เจ้าปัญหานี้กระจายอยู่ทั่วไป ที่เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันและกำจัดไรฝุ่นได้อย่างถูกวิธีและเห็นผลอย่างชัดเจน ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาจก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้อีกด้วย

ต้องยอมรับครับว่าเรื่องราวของเจ้าไรฝุ่นนั้นมันเป็นอะไรที่พูดกันได้มากมายเสียจริงๆ ครับนับตั้งแต่เรื่องของลักษณะภายนอกของมัน สภาพทางกายภาพและชีววิทยา อาหารการกิน ที่อยู่อาศัยรวมไปถึงอายุขัยของมันทำให้เราได้ทราบว่าเจ้าไรฝุ่นตัวร้ายนั้นช่างเป็นอะไรที่น่ากลัวเสียจริงๆ ครับเพราะเรานั้นไม่มีทางหลีกหนีหรือหลีกเลี่ยงเลี่ยงเจ้าไรฝุ่นไปตลอดได้เพราหากเมื่อใดก็ตามที่เรายังคงต้องขลุกหรือหมกตัวอยู่ในห้องที่มีอากาศที่อับชื้น ไม่มีลมระบาย ไม่มีอากาศถ่ายเทแล้วล่ะก็เมื่อนั้นเราเองก็ยังคงต้องมีโอกาสเสี่ยงที่จะต้องเจอกับมันครับ

เพื่อนๆ ทราบไหมครับว่าอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการแพร่ขยายพันธุ์ของไรฝุ่นนั้นอยู่ที่อุณหภูมิความชื้นในระดับ 60% ซึ่งอุณหภูมิขนาดนี้โดยมากมักจะเจออยู่ในห้องนอนเป็นสำคัญดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าเรามักจะพบไรฝุ่นในห้องนอนเป็นมากกว่าห้องอื่นๆ ในบ้าน
นอกจากอุณหภูมิที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของมันแล้วการที่เราเรียนรู้เรื่องของเจ้าไรฝุ่นทำให้เราได้รู้ถึงความน่ากลัวและอันตรายของมันซึ่งต้องบอกว่ามีมากมายเกินขนาดตัวของมันเลยครับ จริงอยู่ครับที่ว่าไรฝุ่นเพียงแค่ตัวเดียวอาจจะไม่สามารถทำอะไรเราได้แต่อย่าลืมนะครับว่าในเตียงๆ หนึ่ง ในผ้าห่มผืนหนึ่งในหรือแม้แต่กระทั่งในปลอกหมอนใบหนึ่งๆ มันไม่ได้มีแค่ไรฝุ่นเพียงแค่ตัวเดียวนะครับแต่มีไม่ต่ำกว่าร้อยตัวดังนั้นเมื่อเราได้รับมันติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะทำให้เกิดโรคได้

คุณแม่มือใหม่หลาย ๆ ท่านนั้น อาจจะคิดว่าของใช้ทารกนั้นมีไม่เยอะหรอก แต่จริงๆ  แล้วนั้น ของใช้ทารกเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากเลยค่ะ เพราะนอกจากเรื่องที่นอน นม เสื้อผ้า ผ้าอ้อมแล้ว ของใช้ทารกที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพนั้นก็มีความสำคัญมากทีเดียว และคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะหลงลืมคิดไม่ถึง หรืออาจจะไม่ได้เตรียมไว้ ซึ่งวันนี้จะมาแนะนำของใช้ทารกที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพของลูกน้อยค่ะ

               อย่างแรกเลยที่ต้องเตรียมก็คือ สำลีกับก้านสำลี เอาไว้ดูแลสุขภาพช่องหูและช่องจมูก ในช่วงของหลังใบหูของทารกนั้น จะมีคราบมาเกาะหากปล่อยไว้นาน ๆ จะทำจับตัวกันเป็นก้อน แล้วจะทำให้เกิดเชื้อราได้ ฉะนั้นจึงต้องหมั่นดูแลรักษาเช็ดให้สะอาดอยู่เสมอค่ะ ต่อมาของใช้ทารกที่จะต้องมีติดไว้ นั่นก็คือมหาหิงคุ์ค่ะ ซึ่งจะเอาไว้ทาเมื่อลูกน้อยมีอาการปวดท้อง เพราะระบบการย่อยของเด็กทารกนั้น ยังทำงานได้ไม่ดี บางครั้งดื่มน้ำนมเข้าไปอาจจะมีอาการปวดท้องจนต้องร้องงงแง ดังนั้นควรมีมหาหิงคุ์เอาไว้ทาแก้ปวดท้องของลูก

นอกจากนั้นสุขภาพในช่องปากก็เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากคราบน้ำนมในช่องปากนั้นสามารถเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดปัญหาเหงือกอักเสบและฟันผุได้ดังนั้นการดูแลสุขภาพช่องปากของลูกน้อยควรเริ่มตั้งแต่ตอนที่ฟันน้ำนมของลูกน้อยยังไม่ขึ้นค่ะ ให้ใช้ผ้ากอซหรือผ้าอ้อมที่สะอาดจุ่มลงในน้ำสะอาด บิดให้หมาดแล้วนำมาพันไว้ที่นิ้วชี้ข้างที่ถนัด ของคุณแม่ ใช้นิ้วที่พันผ้าเช็ดให้ทั่วช่องปากของลูกน้อยอย่างเบามือ เริ่มจากสันเหงือกบน-ล่าง, กระพุ้งแก้มซ้าย-ขวา แล้วจบด้วยที่ลิ้นของลูก เท่านี้ช่องปากของลูกรักก็จะสะอาดมีสุขภาพดีแล้วค่ะ